เอ้กอีเอ้กเอ้กกกกกก อรุณสวัสดิ์เช้าวันที่2ของการเดินทาง ตื่นมาพร้อมรับบรรยากาศสดชื่นกันดีกว่า เมื่อคืนตัดสินใจซื้อทัวร์กับทางเรือ1วัน เพราะสถานที่ที่จะไปกันค่อนข้างไกลนิดนึง จะไปเองก็ได้แต่ต้องกลับมาให้ทันก่อนเรือออกจากท่าอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง แต่คำนวนจากเส้นทางดูแล้วถ้าไปเองคงไปได้2ที่ เลยคิดว่าซื้อทัวร์วันนี้น่าจะคุ้มที่สุด 3ที่หลักๆที่เค้าจะพาไปเราก็คือ 1.หมู่บ้านชาวประมงอิเนะ เป็นหมู่บ้านที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในเกียวโตญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว 2.อามาโนะฮาชิดาเตะ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า สะพานสู่สรวงสวรรค์ (bridge in heaven) เนื่องจากเป็นจุดชมวิวที่ติด 1 ใน 3 ของวิวชายทะเลที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น 3.วัดชิออนจิ(Chionji Temple) เป็นโรงเรียนสอนศาสนาของพุทธศาสนานิกายรินไซเซน เป็น 1 ใน 3 วัดของญี่ปุ่นที่มีรูปปั้นสำคัญของเทพเจ้า Monju Bosatsu ซึ่งเป็นเทพแห่งสติปัญญา ว่าแล้วก็ควักบัตรตื้ดจ่ายเงินไปตามระเบียบ TT''

ว่าแล้วก็รีบอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันสาวเท้าให้ไวตรงไปที่ห้องอาหารบุฟเฟ่ต์ชั้น10ของเรือ ห้องอาหารบุฟเฟ่ต์ห้องนี้สามารถตักทานได้ไม่อั้นกันเลยไม่ต้องจ่ายเพิ่มใดๆทั้งสิ้นเพราะรวมอยู่ในราคาที่จ่ายมาแล้ว เรียกได้ว่าเพิ่มน้ำหนักกันแต่เช้า

แต่ช้าก่อน ก่อนที่เราจะไปเที่ยวกันก็ต้องมารับฟังข้อมูลดีจากคุณลิซ่าชาวฮ่องกงตัวแทนจากเรือcosta กันก่อน ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของห้องพัก และห้องกิจกรรมต่างๆมากมาย
ในส่วนของห้องพักนั้นจะแบ่งเป็นหลายๆแบบ
Grand Samsara Suite 
ห้องนี้สวยสุดแพงสุดวิวดีสุด โอ้ยอยากพักห้องนี้บ้าง อิอิ
Balcony Samsara Suite 
ห้องวิวทะเลมีห้องนั่งเล่นแต่เปิดหน้าต่างออกไปไม่ได้

Balcony Handycap Suite 
ห้องมีระเบียงแต่ไม่มีห้องนั่งเล่น

Outside Cabin 
ห้องแบบไม่มีระเบียงมีหน้าต่างมองเห็นวิวได้

Inside Cabin
ห้องแบบไม่มีระเบียงและไม่มีหน้าต่าง

ระเบียงห้องพัก บรรยากาศไม่ต้องพูดถึง ฟินคูณ10ไปเลยจ้า ลมตีหน้าเย็นๆ แทบอยากจะกระโดดลงเรือไปเล่นน้ำเสียจริงๆ

หลังจากนั้นเราได้รับเชิญจากทางเรือcostaให้เข้าร่วมงาน costa club cocktail ในcardจะระบุวันที่เท่าไหร่เวลาอะไรห้องไหนชั้นไหนให้เราทราบ ไปถึงปุ๊บ อื้มหื้มcocktailเพียบเลย มันโดนใจหมวยจริงๆ แต่ดื่มเยอะไม่ได้เพราะนี่ยังเช้าอยู่และยังไม่ได้ไปทัวร์เลย เลยได้แต่จิบไปเบาๆ รอกลับมาจากเที่ยวก่อนเถอะเสร็จหมวยแน่ๆ

หลังจากออกจากห้องcocktailแล้วก็ได้เวลาไปทัวร์กันสักที ก่อนอื่นต้องมารับตั๋วที่เราซื้อไว้ก่อน ตรงดิ่งไปชั้น5ติดต่อที่เคาว์เตอร์ทัวร์ได้เลยเค้าจะให้ตั๋วมาหลังจากนั้นก็เตรียมตัวลงเรือ อย่าลืมพกบัตร costa cardมากันด้วยนะ เพราะก่อนจะออกจากเรือจะมีเจ้าหน้าที่ใช้เครื่องสแกนบัตรเราเวลาเข้าออกเพื่อนับจำนวนคน

กระพริบตาแป๊ปเดียวเราก็มาถึงอิเนะกันแล้ว 
หมู่บ้านชาวประมงอิเนะ เป็นหมู่บ้านที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในเกียวโตญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว สวยงามสมคำร่ำลือมากๆ ชาวบ้านที่นี่ส่วนใหญ่จะทำประมงกัน ได้กลิ่นอายของทะเลสาปเบาๆ มัวแต่ชื่นชมบรรยากาศหันไปอีกทีคนอื่นๆขึ้นเรือกันไปจะหมดแล้วเลยรีบขึ้นตามบ้าง

สักพักพอเรือออกเพื่อนก็เอาขนมข้าวเกรียบรสกุ้งมาให้บอก100เยน555555 ไม่ใช่ละๆเพื่อนซื้อให้บอกให้นก ไอ่เราก็งงให้นกยังไง ที่ไหนได้เรือออกได้สักพักฝูงนกบินอยู่เหนือหัวพวกเราเต็มไปหมด เห้ยนี่มันนกเหนี่ยวนี่น่า ตายแน่ต้องตายแน่ๆ แต่เพื่อนบอกว่าไม่เป็นไรไม่อันตราย จริงๆมันคือนกเหยี่ยวนี่แหละแต่นกที่นี่เค้าเชื่องแล้ว หมดห่วงได้เลย

หลังจากวนเรือให้อาหารนกเสร็จต่อด้วยอามาโนะฮาชิดาเตะนั่งกระเช้าขึ้นไปดูมังกร ใช่อ่านไม่ผิดหรอก เค้าบอกเห็นมังกรจริงๆ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า สะพานสู่สรวงสวรรค์ (bridge in heaven) เนื่องจากเป็นจุดชมวิวที่ติด 1 ใน 3 ของวิวชายทะเลที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น (อีกสองที่คือ Miyajima และ Matsushima) มองเห็นอ่าวมิยาสึ (Miyazu Bay)

ว่าแล้วก็ทำตามที่เค้าบอกสักหน่อยอยากเห็นมังกรแล้วสิ เค้าบอกว่าให้ก้มมองลอดหว่างขาแล้วเพ่งมองจะเห็นเป็นมังกร มองอยู่ตั้งนานมองยังไงก็ไม่เห็นเป็นมังกรสักที ท้อแล้วนะ ขี้จุ๊เค้าใช่ไหม เค้ามาบอกตอนท้ายว่าแค่คล้ายๆ เห้ออุตส่ามองตั้งนาน น้ำตาหมวยจะไหลเส้นเอ็นหมวยจะยึดเอานะ

หลังจากโดนหลอกไม่สิมองไม่เห็นเป็นมังกรเองตะหากก็ขึ้นรถมาต่อกันที่วัดชิออนจิ(Chionji Temple) เป็นโรงเรียนสอนศาสนาของพุทธศาสนานิกายรินไซเซน เป็น 1 ใน 3 วัดของญี่ปุ่นที่มีรูปปั้นสำคัญของเทพเจ้า Monju Bosatsu ซึ่งเป็นเทพแห่งสติปัญญา วัดแห่งนี้ยังนิยมซื้อเครื่องราง omikuji (มีลักษณะเหมือนพัดที่พับไว้) แล้วนำไปแขวนไว้ที่ต้นสนอีกด้วย ถือว่าสวยงามมากๆอีกวัดหนึ่งเลย ยกนิ้วๆ

พอรถขับมาใกล้จะถึงท่าเรือก็แวะจอดให้เราถ่ายรูปเรือไว้เพราะถ้าเข้าท่าเรือจริงๆจะถ่ายไม่เห็นเต็มลำแน่นอนเพราะลำใหญ่เกินหน้าจอกล้อง55555 ว่าแต่แล้วก็เก็บภาพสวยๆมากฝากสักหน่อย บรรยากาศกำลังดีพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า บ้ายบายยยยยย

อาจจะเบลอๆไปนิดนึงเพราะถ่ายจากในรถ

มาถึงเรือยังไม่ทันจะอาบน้ำก็ได้เวลา dinner ซะแล้ว ทิ้งทุกอย่างแล้ววิ่ง4*100ไปที่ห้องBotticelli restaurantทันที ยังคงตื่นเต้นทุกมื้อเพราะแต่ละมื้ออาหารจะไม่ซ้ำกันเลย ถ้ามาไวจะมีโอกาสเลือกอาหารที่หน้าห้องก่อนใครเพื่อน ทางห้องอาหารจะเอารายการเมนูอาหารมาวางโชว์แล้วให้เราจะเมนูใส่กระดาษไว้ก่อน ไม่อย่างนั้นไปสั่งที่โต๊ะจะเห็นแค่ชื่อเมนูนึกภาพไม่ออกเรียกว่าไม่รู้จักดีกว่า อิอิ

ถ้าไม่เลือกจากหน้าห้องก่อนก็จะเจอกันเมนูอาหารแบบนี้ ซึ่งเดาหน้าตาอาหารไม่ถูกกันจริงๆ จบวันที่2ของการเดินทางไปอย่างสวยงาม ฝันดีราตรีสวัสดิ์ค่าาาา